การติดตั้ง Ultrasonic Flow Meter หรือเครื่องวัดอัตราการไหลแบบอัลตราโซนิก ถือเป็นหนึ่งในกระบวนการที่ต้องการความรู้ความเข้าใจในรายละเอียดอย่างมาก เพื่อให้ได้ผลการวัดที่แม่นยำ เชื่อถือได้ และเหมาะสมกับลักษณะการใช้งานจริง เครื่องมือนี้ถูกเลือกใช้อย่างแพร่หลายในหลากหลายอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นอุตสาหกรรมปิโตรเคมี อุตสาหกรรมผลิตอาหารและยา อุตสาหกรรมน้ำและสิ่งแวดล้อม Ultrasonic Flow Meter ไปจนถึงการใช้งานในภาคสาธารณูปโภค
เช่น ระบบประปา หรือระบบท่อน้ำหล่อเย็นในโรงไฟฟ้า ทั้งนี้เพราะ Ultrasonic Flow Meter มีข้อดีคือสามารถวัดอัตราการไหลของของเหลวโดยไม่จำเป็นต้องสัมผัสกับของเหลวโดยตรง ทำให้ไม่มีการรบกวนการไหล ไม่เกิดแรงดันตกคร่อม และลดความเสี่ยงในการรั่วไหลของของเหลวภายในท่อ อย่างไรก็ตาม เพื่อให้การติดตั้งเครื่องมือชนิดนี้สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ จำเป็นต้องมีความเข้าใจในข้อควรรู้และแนวทางการติดตั้งอย่างละเอียด
การติดตั้ง Ultrasonic Flow Meter ให้ได้ค่าที่แม่นยำ
สิ่งสำคัญอันดับแรกก่อนการติดตั้งคือการเลือกตำแหน่งของท่อที่เหมาะสม โดยทั่วไป การวัดอัตราการไหลด้วยระบบอัลตราโซนิกต้องอาศัยหลักการสะท้อนหรือส่งผ่านคลื่นเสียงไปในของเหลว Ultrasonic Flow Meter ซึ่งความแม่นยำของการวัดจะขึ้นอยู่กับลักษณะการไหลของของเหลวภายในท่อ หากของเหลวมีลักษณะการไหลแบบลามินาร์หรือลักษณะไหลที่ราบเรียบ ก็จะทำให้คลื่นเสียงสามารถเคลื่อนที่ได้สม่ำเสมอ และส่งผลให้ค่าที่ได้มีความเที่ยงตรง ผู้ติดตั้งควรเลือกตำแหน่งที่มีระยะท่อตรงก่อนถึงจุดติดตั้งอย่างน้อย 10 เท่าของเส้นผ่านศูนย์กลางท่อ และมีท่อตรงหลังจากจุดติดตั้งอย่างน้อย 5 เท่า

ของเส้นผ่านศูนย์กลางท่อ เพื่อลดผลกระทบจากการไหลแบบปั่นป่วนซึ่งมักเกิดจากอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ข้องอ วาล์ว หรือปั๊มน้ำอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญคือประเภทของ Ultrasonic Flow Meter ซึ่งมีอยู่หลักๆ 2 แบบคือ แบบ Transit-Time และแบบ Doppler โดยแบบ Transit-Time จะเหมาะสำหรับของเหลวที่สะอาด ไม่มีฟองอากาศหรืออนุภาคปนเปื้อนมากนัก ในขณะที่แบบ Doppler จะเหมาะกับของเหลวที่มีอนุภาคแขวนลอยหรือมีฟองอากาศภายใน Ultrasonic Flow Meter ทั้งนี้ผู้ใช้งานจำเป็นต้องพิจารณาสภาพของของเหลวที่ต้องการวัดอย่างละเอียด หากเลือกชนิดของมิเตอร์ไม่เหมาะสมกับลักษณะของเหลว
การเลือกตำแหน่งและรูปแบบการติดตั้งที่เหมาะสม รวมไปถึงการเตรียมพื้นผิวท่อ
ก็อาจส่งผลให้ค่าที่ได้คลาดเคลื่อนหรือเครื่องมือไม่สามารถทำงานได้เลยวัสดุของท่อก็เป็นอีกปัจจัยที่ไม่ควรมองข้าม การส่งผ่านคลื่นอัลตราโซนิกจะทำได้ดีหากท่อมีความหนาแน่นคงที่ ultrasonic flow meter clamp on ไม่มีการบุด้วยฉนวนหรือวัสดุอื่นๆ ที่อาจขัดขวางการส่งคลื่น ผู้ติดตั้งต้องแน่ใจว่าผิวของท่อที่ติดตั้งตัวเซ็นเซอร์นั้นสะอาด ไม่มีสนิม คราบน้ำมัน หรือสีเคลือบหนาเกินไป เพราะสิ่งเหล่านี้สามารถลดประสิทธิภาพของการส่งคลื่นและทำให้ผลการวัดผิดพลาดได้
ในหลายกรณีการขัดผิวท่อบริเวณที่ติดตั้งหัววัดจะช่วยให้ได้ค่าที่เสถียรขึ้นในเรื่องของการติดตั้งเซ็นเซอร์หรือหัววัดคลื่นอัลตราโซนิก การจัดวางหัววัดต้องเป็นไปตามระยะที่กำหนดจากคู่มือของผู้ผลิต Ultrasonic Flow Meter โดยปกติแล้วจะมีรูปแบบการติดตั้งหลายแบบ เช่น แบบ V-method, Z-method หรือ W-method ซึ่งแต่ละแบบจะมีข้อดีข้อจำกัดที่แตกต่างกัน และเหมาะกับท่อที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางต่างกัน รวมถึงระยะห่างระหว่างเซ็นเซอร์ทั้งสองหัวก็ต้องปรับให้พอดีตามคำแนะนำ
รายละเอียดเพิ่มเติม: https://www.taniyainfratech.com/index.aspx?pid=6f15263f-0080-437a-b24f-a1bc59306e75